หนังใช้ความรุนแรง ย่อมก่อพฤติกรรมเลียนแบบที่รุนแรง
ประเด็นที่ทำให้เกิดบทความนี้ คือโควิดทำให้เด็กและผู้ใหญ่ใช้เวลากับการดูหนังมากขึ้น และบางครั้งพ่อแม่ก็ลืม Log out ออกจากแอปเหล่านี้
ทำให้เด็กเข้าชมภาพยนตร์ผู้ใหญ่ได้เกินความเข้าใจของตนเอง เกิดพฤติกรรมเลียนแบบหนัง เรื่องนี้ไม่ใช่สิ่งใหม่ เพราะปัญหาการซึมซับความรุนแรงจากภาพยนตร์นั้น ถูกป้องกันด้วยการจัดเรตติ้ง (Film Ratings)
เรตการชมภาพยนตร์ หรือ Film Ratings เป็นเรื่องที่พ่อแม่ต่างประเทศให้ความสำคัญมาก เด็กจะดูหนังเรื่องใดก็ตามควรผ่านสายตาผู้ปกครอง เพราะการดูหนังผิดเรตจะส่งผลต่อจิตใจของเด็กระยะยาวอย่างไม่รู้ตัว วันนี้ไทยรัฐออนไลน์อยู่กับ พ.ต.อ.หญิง พญ. อัญชุลี ธีระวงศ์ไพศาล จิตแพทย์ทั่วไป และจิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น ศูนย์อายุรกรรม รพ.พญาไท นวมินทร์ มาพูดคุยเกี่ยวกับ การเลือกชมภาพยนตร์ของเด็กๆ ผ่านแอปดูหนังออนไลน์
จะเกิดอะไรขึ้น เมื่อเด็กเลือกดูหนังผิดเรต
แท้จริงแล้วเด็กควรเลือกชมภาพยนตร์ได้เองตอนอายุเท่าไร
วัยที่เด็กควรเลือกชมภาพยนตร์ได้เอง คือ 18 ปี แม้ว่าฟังดูแล้วจะไกล แต่ในต่างประเทศการจัดเรตติ้งทั่วโลก เพื่อให้ผู้ปกครองได้ติดตามอยู่กับเด็กอย่างใกล้ชิด โดยจะมีการจัดช่วงอายุเป็น 6, 13, 18 ปี โดยผู้ปกครองจำเป็นต้องรู้ว่าลูกดูอะไร และพูดคุยกับพวกเขา
เด็กเล็กยังไม่รู้ และไม่เข้าใจ เลียนแบบทุกอย่าง
มนุษย์เลียนแบบจากการมองเห็นได้ดีที่สุด ซึ่งผู้ใหญ่จะมีพัฒนาการสมองส่วนหน้า มีพัฒนาการทางเหตุผล แยกความถูกต้องได้แล้ว จึงเลือกภาพยนตร์ได้เอง แต่ในเด็กเล็กๆ ยังไม่รู้และไม่เข้าใจ เลียนแบบได้ทุกอย่างจากสิ่งที่มองเห็น แม้กระทั่งโฆษณา เมื่อผ่านหูและรับฟังบ่อยๆ เข้า ก็ซึมซับได้โดยไม่รู้ตัว
เด็กเล็กจะเลียนแบบคำพูด สีหน้า อารมณ์และความเชื่อผิดๆ ได้ ตอนนี้มีสื่อทั้งยูทูบ ซีรีส์การ์ตูนต่างๆ ที่ออกแบบมาสำหรับเด็ก ถ้าต้องเปิดให้เด็กดู ต้องมีผู้ใหญ่ดูด้วย เช่น การ์ตูนที่ดี ก็จะเริ่มต้นเดินเรื่องด้วยปัญหาก่อนแล้วสรุปด้วยข้อคิดบางอย่าง คุณพ่อคุณแม่ก็ต้องคอยแนะนำว่าแบบไหนควรทำ หรือไม่ควรทำ
ถ้าไม่อยากให้คนนอกมาปลูกฝังมุมมองให้กับลูกของเรา พ่อแม่ควรอยู่กับเด็กเล็กอย่างใกล้ชิด
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติม คลิ๊กเลย >> ขวบเศษดับปริศนาศพช้ำทั่วร่าง! เค้น “พ่อเลี้ยง” พร้อมแม่เด็ก เจอ “พิรุธ” ทั้งคู่